เพชฌฆาต


หากฉันเป็นเพชฌฆาต
จักมอบสัญญาแด่เธอ
มันจะจบลงในดาบเดียว
...

(พลอยพยัพ)

ต่อรอง


ซื้อของจากคนใบ้
มีแต่ความเงียบ
เพียงอ่าน , เข้าใจ
ก็ซื้อไป ไม่วุ่นวาย ไม่ต่อรอง
...
เหมือนตอนเธอเงียบ หันหลังใส่
ฉันก็มิอาจต่อรองอันใด

(พลอยพยัพ)

ช่างตีเสื้อเกราะ



ตามจริงแล้ว ชีวิตของข้าพเจ้า
ไม่ควรต้องคลุกคลีกับสิ่งเหล่านั้น
ช่างพิสุทธิ์ และสว่าง

แต่เป็นข้า ที่ทำให้หม่นหมองเสียเอง
หมายจะสร้างเกราะกำบัง ให้คุ้นชิน
เฉกนักพราง ยอมป้ายหน้าให้แปดเปื้อน แล้วซ่อนตัว
แต่โลกนี้ไม่มีที่ซ่อนโดยสัมบูรณ์

สุดท้ายเราก็โดยกระสุนจริง
ทีชื่อว่า "กิเลส" ทะลุทะลวง
สิ่งเดียวจะกำบังได้ คือ "อนัตตา"
ซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้าง
...

( พลอยพยัพ ) , ช่างตีเสื้อเกราะ

ไม่ย้อนคืน


รอยอุ่น ยังคงอุ่น
ยากเกินจะลืมเลือน
เพราะมันคือเลือดเนื้อ
ที่แสดงถึงจิตวิญญาณ

หากไม่ยี่หระแล้วไซร้
คงมิต่างจากกอดซากศพ
เย็นยะเยือก วังเวง

ฉันยังไม่ลืม
และเคยสัญญาว่าจะไม่ลืม
แต่การตอกย้ำสิ่งดีงาม
ต้องมาควบคู่กับข้อจำกัดด้วย

กอดสุดท้าย ไม่อุ่นอย่างเคยๆ
เพราะมันเป็นเครื่องยืนยันว่า
ฉันจะสูญเสียเธอ ไปโดยนิรันดร์
ด้วยความทะนงและยโส
ด้วยความรู้สึกเสื่อมเกียรติ

จึงยังมิอาจพบเจอ
แม้จำเป็น ก็มิอาจสบตา
ความเปลี่ยนแปลง ต้องใช้เวลา
ฉันจึงตระหนักว่า
สิ่งเหล่านั้น จะไม่ย้อนคืน
เธอเองก็ด้วย ...

(พลอยพยัพ)

รอยด่างอันพิสุทธิ์


โกรธา ปึงปัง
แสร้งตบตา แทนหวงหึง
ตบตี ชวนทะเลาะ
สายตาพยาบาท
...
การคิดจักครอบครอง
เท่ากับยืนฝั่งตรงข้าม
กับความรักแล้ว

อย่าใช้อ้างถึง หากทำด้วยปกป้องตัวเอง
ให้ห่างจากความไม่สมดังใจ
เพราะคือ ความเห็นแก่ตัวโดยแท้
รอยด่างอันพิสุทธิ์
ไม่เคยถูกชื่นชมยินดี
เมื่อขังรักในกรง เป็นสำเร็จ...

(พลอยพยัพ)

สิ้น,ศรัทธา


ฉันสิ้นแล้ว ซึ่งศรัทธา
รักอันใด ที่เธอเคยพรรณา
ตลอดกาล นิรันดร์
บุญที่ฉัน ไม่เคยปักใจ
...
ริจะปลูกต้นรัก บนแผ่นดินแห้งแล้ง
ยากเทียมจุดคบไฟ ในขั้วโลกเหนือ
มอบศรัทธาแรงกล้า
แล้ว กลับถอดใจ กลางคัน
ฉันเปล่าเสียดาย แค่เสียใจแทนเธอเท่านั้น
เพราะโอกาสสุดท้าย
ได้อันตรธานไป ชั่วนิรันดร์
...
ต่อให้เธอคว้าทัน
ฉันก็สิ้นแล้ว ซึ่งศรัทธา

(พลอยพยัพ)

เสพย์สม บ่มิสม


เสพย์สม บ่มิสม
เพียงอารมณ์ สุขสำราญ
เปื้อนหน้าดังรอยจาร
แล้วเลยผ่าน มิจดจำ

เจ้าของก็มิใช่
ตีตรวนไว้ โดยไร้คำ
เสพย์สมแลดื่มดำ
เพียงอาโศก ด้วยอาสัญ

สุขสม ช่างสมสุข
ต่างผลัดรุก รับทันควัน
สอดส่าย พันลวัน
ห่ามหุนหัน แล้วผ่อนคลาย

สุขฤาคงมิสุข
ฤาจะทุกข์ มิวอดวาย
ข้ามราตรี สมดังหมาย
มอบเพียงกาย ขาดจากกัน

...

(พลอยพยัพ)

สิ่งที่ง่ายที่สุด



เพียรรักษาความเป็นตัวเองไว้
เพราะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด
...
หากแต่ใครอื่นนั้น
พยายามเหลือ ที่จะริดรอนมันไป
สิ่งนั้นจึงยากเย็น

(พลอยพยัพ)

มุมอับแห่งรัก


การยินยอม ใดใดเหล่านั้น
นี่หรือมาจากคู่รัก
การสร้างเงื่อนไขระหว่างกัน
ริดรอน ตั้งกฏเกณฑ์
ไฉนรักเต็มไปด้วยข้อแลกเปลี่ยน

รักชิดใกล้ คล้ายตราบชั่วฟ้าดินสลาย
เริ่มจากร้อยอย่างกล่องกลวง
จะรักกันเต็มร้อยได้อย่างไร
เมื่อไม่เคยเผชิญสิ่งใดใด
มาด้วยกัน...

นานวัน รักจะเพิ่มขึ้นฤา
มีแต่กัดกิน และดูดกลืนระหว่างกัน
อย่างน่าเศร้า
เราขอความรักจากกันจนหมดสิ้น
รักไม่สวยงามอีกต่อไป

วิธีการ ยากเย็น
แต่หากค้นพบ ก็แสนมหัศจรรย์

ดอกหน้าวัว


เป็นอีกหนึ่งราตรี
เสพย์สิ่งเหล่านั้นจากกัน
แล้วหันหลังใส่กัน

เพราะมิได้เกิดจากรัก
ใยข้าต้องใส่ใจ
เสพย์เพียงกาย
ส่วนหัวใจ ก็โบยบิน
...

(พลอยพยัพ)



ริ้วรอย




"ริ้วรอยแห่งความปวดร้าว
ที่ฉันสร้างขึ้นมาในวัยเยาว์
ติดตรึงเช่นรอยสัก
ต่างตรงที่ ไม่สวยงาม


...
ใครรึจะรับผิด
ฉันเอง คงไม่
ความโง่งม ระทม บรรลัย
จึงได้ปล่อยไป ในสายลม"

(พลอยพยัพ) 1/2012

กุหลาบ


ดาวบริวาร




14 พฤษภาคม

พวกดาวบริวาร ต้องฟาดฟันกันเอง
เพื่อเข้าใกล้จุดศูนย์กลาง แต่ถ้าเว้นระยะห่างไม่เป็น
คงถูกกระแทก แหลกเป็นจุล
ให้มันแก่งแย่ง ชิงดีกันไป
...
เพราะข้าพเจ้าไม่ต้องการโคจร รอบใครอีกแล้ว

(พลอยพยัพ)
 
 
 
 
 

การทำความดี




การทำดี
...



เหมือนการปลูกดอกไม้ ถ้าเราปลูกดอกเดียว ก็ธรรมดา 
คนอาจมองไม่มาชื่นชมหรอก 
ถ้าเราปลูก 100 ดอก ผู้คนก็อาจสนใจเราบ้าง 
แต่ไม่เพียงพอกับคนที่มากมายรายล้อมตัวเรา 
หากว่าเราขยัน และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย 
อุทิศตนปลูกเป็นสวน เป็นไร่ 
แน่นอนว่ากลิ่นหอมคงฟุ้งขจายไปไกล 
และมีแต่คนอยากเข้ามา ชื่นชมยินดีแน่นอน
… 
ผิดกับ การทำความชั่วเล็กๆน้อยๆ 
ลิบลับ

(พลอยพยัพ) 6/2011




เป่า ยิง ฉุบ





ค้อนแพ้กระดาษชนะกรรไกร...
กรรไกรแพ้ค้อนชนะกระดาษ...
กระดาษแพ้กรรไกรชนะค้อน...

ข้าพเจ้าคิดว่า ใดๆในโลกก็ไม่ต่างกับเกมส์นี้ง่ายๆ
แต่ไม่สิ้นสุดและไม่มีที่หนึ่ง

(พลอยพยัพ) 



รำพึงแห่งอสุรา





14 พฤษภาคม

ข้า นั้นไร้ปีก แต่วิญญาณได้โบยบินไปไกลลิบ
ข้า นั้นไร้หัวใจ แม้รับรู้ถึงความรักอยู่ในท
แต่มิอาจเก็บรับไว้

อย่าคลางแคลงว่าข้าขื่นขมเพียงใด
เพราะนี่คือสภาวะที่ยืนยันถึง “การมีชีวิต”
อย่างเดียวที่ข้าแตะต้องได้

(พลอยพยัพ)
 
 
 
 

บอด-ใบ้

 
 
 
หากมีอุ้งมือแห่งความอบอุ่น
ดอกไม้คงพร้อมจะให้โอบอุ้ม
...
หากแม้มืดบอดแต่ยังได้ยินสียง
นกน้อยคงพร้อมจะขับขาน
แม้ในฤดูกาลแห่งความแห้งแล้ง
สายฝนยังเห็นใจ คำวิงวอนสุดท้าย , ของชาวนา
ใยจึงเกรงกลัว
...
แม้ขังประตูปิดตาย หมายจะกั้นกาย
หัวใจยังโบยบิน ไปโอบกัน

(พลอยพยัพ)



กลยุทธิ์ติดปีก


ผีเสื้อสีสวย รูปร่างแปลกตา แต่ทว่าไม่ยอมให้จับ
สัตว์มีปีก มีบางสิ่ง ที่ต้องยอมรับ
คือโหยหา อิสรภาพ เยี่ยงมนุษย์ ...
เฉกเช่นรัก จะไล่ล่าย่อมเหน็ดเหนื่อย จำต้องล้อเล่นไปเรื่อยๆ
เหมือนผีเสื้อ ล่อตาข่ายให้มาจับ อันความรัก มีบางสิ่งต้องยอมรับ
หากยิ่งไล่จะขยับ จำต้องนิ่งให้เข้าหา ...

กลยุทธ์บ้างอาจดี แต่ต้องรอเวลา
เจ้าจงใช้มารยาให้ถูกเล่มเกวียน

(พลอยพยัพ) 10/20101




ริดรอน

 
 
 
พยายามแล้ว ที่จะริดรอน
แต่ปุ่มหนามของฉัน ยังคงทิ่มแทงเธอ
เพราะความกลัว ที่จะไม่มีสิ่งใดป้องกัน

เมื่อถึงเวลา ที่ฉันนั้นรักเธอมากกว่า
และยอมหักมันออกทั้งหมด
หวังว่าเธอยังคงอยู่ โดยไม่เจ็บหนักไปเสียก่อน

แต่ยากนัก ที่รัก...
ชั่วชีวิตนี้ ฉันก็ยังไม่เคยทำเช่นนั้น เพื่อใคร
บอกได้เพียงว่า ยากนัก

(พลอยพยัพ)




สดุษฏี




ในคืนแหลก สูญ
น้ำฝนกัดเซาะหินผาพังทลาย
ในที่สุด มันก็ทำสำเร็จ ...
น้ำตาแห่งฉัน ในวันนี้คงมีเพียงสิ่งเดียว
คือยินยอมให้เธอ มีอิทธิพลต่อหัวใจ

ทั้งหวาน และ ขม
นั่นก็คงเป็นความสมดุล
หากจะเล่นเกมส์ที่ชื่อว่า ความรัก
น้ำตา กับ รอยยิ้ม เป็นสองสิ่ง
ที่ต้องวางเดิมพันไว้ เท่าๆกัน...

หากได้ หรือ เสียสิ่งทั้งสองมากไปนัก
จงแคลงใจเถิด ว่ามิใช่ "ความรัก"
เราต่างต้องแลกเปลี่ยนกัน
เพื่อความสมดุลในฉัน และ ความสมดุลในเธอ
...

(พลอยพยัพ)




ม้าเหล็กครวญ ๒




ฉันเพียงเหนื่อยที่จะประคับประคอง
เพราะยังคง เห็นแก่ส่วนตัว และรักอิสระอยู่มาก
โดนใส่กีบเท้า แต่ต่อต้าน จึงแสนเจ็บปวด

มันจึงออกมาในรูปแบบ ประหลาด
ไม่เข้ารูปเข้ารอย ย้ำคิดย้ำทำ
ไม่เป็นที่ยอมรับ แม้ในตัวมันเอง ก็ไม่แน่ใจ
...
บางครั้งจึงพยศ อย่างดิบ กระด้าง
ดีด สะบัด ใส่เธอ อย่างไม่แยแส
แล้วกลับมาเสียใจ ที่ทำร้ายผู้เปี่ยมด้วยใจบริสุทธิ์
ใช่ว่าฉันจะพอใจพฤติกรรมตัวเอง หรอกนะ
แต่ไม่รู้ว่า จะห้ามตัวเองได้ในทุกคราว อย่างไร?

(พลอยพยัพ)




ม้าเหล็กครวญ ๑


นอกระเบียงชั้นสอง
ลมทะเล แห่งวสันตฤดู เฉือดเฉือน รุนแรง
ภาระ ยังหนักอึ้ง , ภูผา ยังสูงชัน
เรี่ยวแรง เหนื่อยอ่อน
...
" เจ้าม้าเหล็กเอ๋ย ยังมีทางทอดไกลอีกหลายลี้
ให้เจ้านี้ เหยียบย่าง ไปวัดใจ
กริ่งเกรงสิ่งใด ให้เสื่อมเกียรติเล่า"

(พลอยพยัพ)



บังเอิญ




เราพบกันโดยบังเอิญ
แต่ใยเจ้ามีมิตรไมตรีที่ดีเหลือเกิน...
ไม่หรอก! อย่าเชื่ออะไรโดยง่าย
นานนานไป ก็จากกัน
จักผูกพันให้รำหาไปใย

ความทรมานนั้น สาหัสนัก
และไม่อาจกล่าวโทษ ใครใคร
เจ้าจำต้องโทษตน ให้จงหนัก
ว่ารู้รัก แต่ไม่รู้จักห้ามใจ


...
ถึงร้ายเพียงนั้น ก็ตามที
มียาตัวหนึ่งพอที่ จะรักษาได้
แต่ต้องอาศัยปริมาณมากโข
ยานั้น ใครใคร่คุยโว ชื่อว่า"เวลา"

จริงหรือ ข้าไม่อาจรู้
รู้เพียงผ่านมาหลายครา แต่ใยข้ามิหลาบจำ

(พลอยพยัพ)



หนุนใจ ๒





ความผิดหวังในรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่ได้ทำให้ข้าเชื่อใน "ความรัก" น้อยลง
มันเป็นเรื่องราวเฉพาะที่ไม่อาจ

หนุนใจ ๑





เมื่อเผชิญกับทางทอดยาว
หาใช่การย้อนศร กลับทางเดิมไม่
ขวากหนาม แล ความเจ็บปวด ปูทางต้อนรับ
จำต้องย่ำต่อ ...

ความยาก - ง่าย
กลับตกอยู่ที่ การรักษาบาดแผลอย่างไร
มิใช่ การหลบให้พ้น ...

ทางลัดไม่มี จำไว้
ถ้าวันนั้นมาถึง เหยียบมันไปเถอะ
ใจที่เข้มแข็ง จะผ่อนหนัก เป็นเบา ...

(พลอยพยัพ)

พายุน้ำตา



ความคิดถึง นั้นมีมากเหลือ
ชั่วราตรีนี้ ก็มิอาจสงบได้
ดั่งเมฆทมิฬก่อนเกิดฝนหนัก
ยังมิอาจควบแน่นให้เป็นเม็ดฝน

สะสมความระทมช้านาน ..
รอเวลา ของพายุน้ำตา
และมันจะรุนแรงเหนือใครต้านทาน

(พลอยพยัพ)